“นนท์ ธนนท์” บอกลาคำว่า “แพ้” ขอบคุณเพื่อนแท้ “ฟรีพลัส”

นนท์-ธนนท์จำเริญ หนุ่มหล่อเสียงดีมากความสามารถผู้มัดใจแฟนๆ ด้วยหลากหลายบทเพลงแสนไพเราะ พ่วงด้วยความขยัน ตั้งใจทำงาน ทำให้เขามีผลงานเพลงใหม่ออกมาให้แฟนๆได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าส่งต่อความสุขไม่มีวันหยุด แต่ไหนจะงานคอนเสิร์ตอีเว้นต์ และตะลอนทัวร์ทั่วราชอาณาจักร หนุ่มนนท์มีเคล็ดลับอะไรกันนะ? ที่ช่วยให้แลดูสดชื่น สดใส ออร่า มาปังๆ ตลอดเวลา ซึ่งหนุ่มนนท์เล่าว่ากว่าจะเจอสิ่งที่ใช่ และตอบโจทย์ เคยลองผิดลองถูกมามาก และเคยแพ้มาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลองไปฟังประสบการณ์จริงเรื่อง “ความแพ้” ที่ทำให้เขารู้สึกแย่ จนขาดความมั่นใจ รวมถึงเคล็ดลับที่เอาชนะอย่างรู้เท่าทันและการสร้างภูมิให้ตัวเอง จากปากหนุ่มนนท์กันเลย

“บอกตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเลยเพราะไม่ใช่ผู้ชายที่ดูแลตัวเองจ๋าขนาดนั้น” หนุ่มนนท์ เริ่มบทสนทนาแต่ด้วยงานในวงการที่เราทำและการใช้ชีวิตของเราที่ต้องใช้รูปร่าง หน้าตา ตรงนี้เอง ที่ทำให้ผมหันมาดูแลตัวเองมากขึ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้นกันและสร้างความมั่นใจในตัวเอง ผมจะพยายามดูแลตัวเอง และศึกษาเรื่องผิวอย่างผมเป็นคนที่แพ้ง่าย ก็ต้องหาสิ่งที่เราใช้แล้วเข้ากัน ไม่แพ้เพราะก่อนหน้านี้ ไม่เคยสนใจและไม่เคยรู้มาก่อนเลยเรื่องการดูแลผิวพรรณ สบู่ก้อนเดียวใช้หัวจรดเท้าเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป การดูแลตัวเองของผม จะมีหลายๆ อย่างมิกซ์แอนด์แมตซ์เข้าด้วยกันรวมทั้ง เสื้อผ้า แฟชั่นการแต่งตัว ก็ต้องให้เหมาะสมกับโอกาสต่างๆแต่สิ่งสำคัญที่สุดผมมองว่าเป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในแต่ละวันต้องเลือกสรรตัวที่เหมาะกับสภาพผิวเพราะเราต้องดูแลภาพลักษณ์และบุคลิก เริ่มมาจากข้างในที่ทำให้เราแสดงออกมาถึงมั่นใจในตัวเอง”

เมื่อถามถึงเรื่องของใจ มีการดูแลสุขภาพใจอย่างไรหนุ่มนนท์ตอบว่าเวลาเจอปัญหา ทำให้เครียด จนเกิดความท้อแท้ ผมจะใช้การทำงานดนตรีที่ผมรักช่วยบำบัด โดยเราจะไม่มองว่านี่คือการทำงาน เพราะทุกครั้งที่มาทำงานดนตรี เราจะถูกโอบด้วยบรรยากาศแห่งความสุขความสนุก แล้วนึกถึงแฟนๆ ที่เขารอมาร่วมสนุกกับเรา นี่แหละคือการผ่อนคลายและพักผ่อนเพราะฉะนั้นดนตรี จึงเป็นสิ่งที่ช่วยบำบัดจิตใจให้ผมมีความสุข และคลายเครียด

แม้การดูแลจิตใจจะเป็นเรื่องสำคัญแต่รูปลักษณ์ภายนอกก็สำคัญเช่นกัน จำเป็นต้องให้ความสำคัญเรื่องการบำรุงผิว “ถ้าให้คะแนน1-10 ผมให้ ประมาณ 8-9 เพราะผมก็พยายามสุดๆ เลยนะ กว่าดูดีได้ขนาดนี้ (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ผิวผมแย่มากๆ คือ ตอนเด็กผิวจะดีเหมือนแม่ แต่พอเป็นนักกีฬาและเล่นดนตรีการดูแลตัวเองก็จะไม่ค่อยได้ใส่ใจนัก บวกกับเป็นช่วงวัยรุ่นด้วย เพราะฉะนั้น ตอนนี้ก็เลยต้องรับผลแต่ขณะเดียวกันผิวพรรณรูปลักษณ์ของตัวเรา ก็จะนำโอกาสมาให้หลายอย่าง ฉะนั้น ผมจึงต้องหันกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น”

สำหรับช่วงเวลาที่เคยแพ้อย่างหนักจนเสียเซลฟ์หนุ่มนนท์ เล่าว่า “ตอนนั้นเพิ่งเข้าวงการบันเทิงมาได้ 2-3 ปี ผมแพ้หลายอย่างมาก พวกเมคอัพ คลีนซิ่งโฟมล้างหน้า ก็จะแพ้หมดเลย แต่ว่าบังเอิญได้มาเจอกับ “freeplus” (ฟรีพลัส) สกินแคร์เพื่อดูแลผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะจากญี่ปุ่นซึ่งเขาศึกษาเกี่ยวกับคนที่แพ้ง่ายมาหลายสิบปี น่าจะเป็นมืออาชีพทางด้านนี้ ก็เลยลองดูแล้วก็ได้รู้จักกับคำว่า “ไม่แพ้” ชีวิตผมเกิดมา 20 กว่าปี ผมรู้สึกเลยว่านี่คือแบรนด์แรกที่แบบโอ้โห!มันยกอุปสรรคบางอย่างที่อยู่ในใจเราตลอดเวลาออกไปได้เลย ก็ไม่มีแล้วประสบการณ์แพ้เรียกว่าไม่แพ้อีกต่อไป”

เมื่อถามถึงช่วงที่แพ้หนักมากหนุ่มนนท์เผยว่า“เกิดจากการเมกอัพครับแล้วตลอดช่วงระยะเวลานั้นที่แพ้หนักมาก ไปรายการทีวี มีไปทัวร์คอนเสิร์ตตลอดด้วยก็ต้องแต่งหน้า เจอแสงไฟ แสงแดดตลอด จนกลายเป็นว่าช่วงนั้นผิวเราแย่มากๆทั้งในแง่ของสิวเสี้ยนต่างๆ บวกกับวัยที่เป็นช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนด้วย ประมาณ 17-18 ปี ผมนี่ร้องไห้ ไม่มั่นใจในตัวเองเลยแต่งหน้าแล้วรู้สึกว่าไม่สะอาด หน้าเจ็บไปหมด รู้สึกแย่ เฟลไปเลยขึ้นเวทีก็ไม่มั่นใจ แต่สุดท้ายมันก็กลับมาที่ตัวเรานี่แหละที่จะต้องใส่ใจและดูแลตัวเองให้ดีค่อยๆ ฟื้นฟูมันด้วยผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับสภาพผิวของเรา”

หนุ่มนนท์ บอกด้วยว่า การที่ได้เจอกับ“freeplus” (ฟรีพลัส) ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก“ผมมองว่า “freeplus” ตอบโจทย์มาก ประทับใจทั้งสามโปรดักซ์ที่ใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นfreeplus Watery Cream แล้วก็พวก Cleansing อย่างfreeplus Mild Soap A และ และ freeplus Mild CreamCleanser A ช่วยได้มาก คือ ต้องใช้สองอย่างเพราะในแง่ของการแต่งหน้าพอเราหาเครื่องสำอางที่เราไม่แพ้ได้แล้ว ที่สำคัญเราก็ต้องทำความสะอาดล้างเครื่องสำอางให้ดีด้วยขอบคุณมากที่เข้ามาช่วยดูแล ทำให้เราสบายใจ และสบายผิวทุกครั้งที่ใช้ที่สำคัญใช้ง่าย ชุ่มชื้นมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่ง “freeplus” (ฟรีพลัส) ตอบทุกโจทย์ของผมที่สุด จนได้รับเลือกเป็น Friend ofBrand ในปัจจุบัน”

หากให้นิยามคำว่า"แพ้" ในชีวิตของนนท์ และการเอาชนะมันล่ะคำว่า แพ้ สำหรับผมอันดับแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่า เราเจอกับอะไร เราแพ้อะไร ทำไมเราถึงแพ้แต่ท้ายที่สุด 80%มันก็เกิดจากตัวเราเองนี่แหละ บางทีเราพยายามไม่พอ หรือบางทีเราแก้ไม่ตรงจุดถ้าเรารู้ว่าปัญหาคืออะไร สิ่งที่เราจะต้องเจอมันคืออะไรอุปสรรคที่เราจะต้องแก้มันคืออะไร แล้วหาวิธีแก้ให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นเลยต้องถามตัวเองก่อนว่าเรารักในสิ่งที่เราทำมากแค่ไหน อย่างผมหลายคนอาจจะมองว่า เราได้ทำงานตรงนี้ โชคดีจังเลยได้ทำงานที่รักตั้งแต่อายุ 16 ถึงตอนนี้ 20 กว่า ได้ขึ้นโชว์บนเวทีใหญ่ๆ ร่วมกับพี่ๆ ศิลปินชื่อดังมากมายซึ่งเราไม่เคยคิดหรอกว่าจะมีโอกาสแบบนี้”

“อย่างช่วงที่ประกวดเดอะวอยซ์ เราโชคดีตรงที่ว่าคนดูเขาโอเคกับเรา เขาให้ความรักความเอ็นดูกับเรา เขาก็เลือกให้เราเป็นวินเนอร์ หรืออย่างเดอะ แมสก์ ซิงเกอร์ เองก็ตาม เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไม่มีเรื่องของรูปร่างหน้าตาเข้ามาเลยเราพยายามมันด้วยความสามารถทั้งสองรายการเลยนะเป็นรายการที่ไม่ได้ใช้หน้าตาทั้งคู่เลย (ยิ้ม) ท้ายที่สุดเราก็ต้องหาว่าความพยายามของเรามันอยู่ตรงไหนเราถามตัวเอง รักมันมากแค่ไหน ในมุมของนักร้อง การได้ขึ้นไปอยู่บนเวที ได้ไปเป็นหนึ่งในความสุขของคนดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในการใช้ชีวิต ผมมองว่าไม่ใช่วันของเราทุกวันหรอกแต่ต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา เราต้องพยายามไปก่อน ผมเองก็เช่นกัน กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องอดทนต่อสู้ และพยายามอย่างมาก ผมจะขอเป็นกำลังใจให้แฟนๆ ทุกคนนะครับ”

ท้ายนี้ หนุ่มนนท์ ฝากแฟนๆติดตาม ผลงานเพลงประกอบละคร “จะยอมแค่เธอคนเดียว” จากละครเรื่อง “รักหมดใจ” ทางช่องGMM25 และ “อยากหยุดเวลาไว้”จากละครเรื่อง “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ทางช่อง 3 รวมถึงผลงานเพลงใหม่ เพลง Play,เพลง ไม่ใช่เวลาของเรา, เพลง หมื่นคำลา “ฝากติดตามกันด้วยนะครับและขอขอบคุณที่คอยสนับสนุนกันเรื่อยมา” หนุ่มนนท์ กล่าว


LATEST ARTICLES
TOP Share
Social