GAYSORN S/S 2018 เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งโลกแฟชั่น “THE MASTERPIECE” EXHIBITION

เกษรวิลเลจ ไลฟ์สไตล์เออร์บันวิลเลจแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย จัดงาน GAYSORN S/S 2018 “THE MASTERPIECE” EXHIBITION ชวนผู้หลงใหลในเสน่ห์แห่งแฟชั่น มาเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่กับแฟชั่นเอ็กซิบิชั่นอันล้ำสมัยที่ผสานความโมเดิร์นของโชว์เคสศิลปะแนวเหนือจริง (Surrealism) ไว้กับสุดยอดผลงานแฟชั่นมากด้วยสไตล์ระดับมาสเตอร์พีซ จาก 19 แบรนด์เครื่องแต่งกาย เครื่องหนัง และเครื่องประดับชั้นนำ อาทิ BUSSARAKAM, CHERISH, CLEAR JEWELRY, KABURI, KLAR LOV, LONELY TWO LEGGED CREATURE, LOTUS ARTS DE VIVRE, MATTER MAKERS, METTIQUE, NINE GEMS, OLIVIA DIAMONDS, PHYA, PICHITA, POEM, P.T. HOUSE, ROCHELLE, STUDIO 21 ORIGINAL JEWELRY, TAWN C. และ THARIS ที่ต่างพร้อมใจกันสร้างสรรค์คอลเลคชั่นสุดพิเศษและแฟชั่นไอเทม ในระดับมาสเตอร์พีซประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 อันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นประจำแบรนด์ที่เผยให้เห็นถึงเทคนิคการตัดเย็บ วัสดุล้ำค่า และความงดงามของงานฝีมือจากช่างศิลป์ มาให้ได้อัพเดทเทรนด์และยลโฉมถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด โดยมีเซเลบริตี้และแฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าของเมืองไทยร่วมงานคับคั่ง อาทิ สุรีย์ รัตนหิรัญญา, สารินทร์ ว่องกุศลกิจ, อดิศัย กุญชร ณ อยุธยา, นิติ สว่างวัฒนไพบูลย์, อธิชัย โปษยานนท์, อุไรพร เฉลิมทรัพยากร, รินทร์รตา อินทามระ, กรองกาญจน์ – พิมพิศา ชมะนันทน์, มนตร์ลดา พงษ์พานิช, ฟา เบเนเดทตี้, วรางคณา จิตศักดานนท์ เป็นต้น เมื่อค่ำวันพุธที่ 28 มีนาคม 2561 ณ ชั้น G เกษรวิลเลจ

จิรัสย์ วัฒนภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด เกษรวิลเลจ กล่าวว่า “หลังประสบความสำเร็จจากการนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งเปี่ยมรสนิยมทั้ง Christmas Village, Food Village และ Artisans of Gaysorn ปีนี้เกษรวิลเลจในฐานะคิวเรเตอร์ผู้คัดสรรและนำเสนอประสบการณ์ต่างๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าให้กับการใช้เวลาของลูกค้าภายในเกษรวิลเลจ จึงได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ทางแฟชั่นขึ้นมาในรูปแบบเอ็กซิบิชั่นที่เปี่ยมไปด้วยสไตล์ผสานคุณค่าของงานศิลป์ ในงาน GAYSORN S/S 2018 “THE MASTERPIECE” EXHIBITION ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของผลงานชิ้นเอกในระดับ “MASTERPIECE” ที่ผ่านการคัดสรรเฉพาะ 19 แบรนด์ชั้นนำในเกษรวิลเลจ โดยคอนเซ็ปต์ของเอ็กซิบิชั่นในครั้งนี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะในแนว Surrealism แตกต่างจากแฟชั่นเอ็กซิบิชั่นในรูปแบบเดิมๆ ทว่าเป็นอินเตอร์แอคทีฟเอ็กซิบิชั่นที่มีสีสันและมีความสนุกสนาน โดยเราดึงเอาองค์ประกอบของศิลปะ Surrealism มาใช้เพื่อให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมกับพื้นที่ในการจัดเอ็กซิบิชั่นอย่างเต็มที่ ทั้งการถ่ายภาพร่วมกับชิ้นงานมาสเตอร์พีซแต่ละชิ้น และสนุกไปกับลูกเล่นต่างๆ ที่มีความ Surrealเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์แฟชั่นที่มีสีสันในฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ซึ่งทั้ง19แบรนด์ได้สร้างผลงานมาสเตอร์พีซขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะโดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ทั้ง Fashion, Accessories, Fine Jewelry และ Fashion Jewelry นอกจากนั้นเกษรวิลเลจยังมอบรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมายให้กับลูกค้าที่มาช้อปปิ้ง ในแคมเปญ GAYSORN S/S 2018 “THE MASTERPIECE” ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน ครับ”

โดยภายในงาน GAYSORN S/S 2018 “THE MASTERPIECE” EXHIBITION เกษรวิลเลจได้เนรมิตพื้นที่บริเวณชั้น G ให้กลายเป็นแฟชั่นเอ็กซิบิชั่น 4 โซนสวยเก๋ที่เล่นกับพื้นที่ การจัดวาง การไล่ระดับ และสีสันในโทนพาสเทลได้อย่างตื่นตา โดยเพิ่มลูกเล่นของตัวเอ็กซิบิชั่นด้วยการผสมผสานกับแนวศิลปะเหนือจริง หรือ เซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) ที่ว่ากันว่าเป็นเทรนด์แฟชั่นประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์เลยทีเดียว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพเขียนของศิลปินดังที่ถ่ายทอดผลงานแนวเซอร์เรียลลิสม์ไว้อย่าง ซัลวาดอร์ ดาลี (Salvador Dali) และ จอร์จิโอ เดอ คิริโก (Giorgio de Chirico) ที่ล้วนสรรค์สร้างงานศิลปะออกมาจากเรื่องราวของจิตใต้สำนึก ความเพ้อฝัน และจินตนาการ ซึ่งเชื่อว่าการแสดงออกของจิตใต้สำนึกอย่างอิสระ จะนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานศิลป์อันน่าอัศจรรย์ เช่นเดียวกับโลกแห่งแฟชั่นที่จินตนาการไร้ขอบเขต คือแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับผู้ที่โหยหาความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร โดยตลอดพื้นที่ของแฟชั่นเอ็กซิบิชั่นทั้ง 4 โซนได้จัดแสดงชิ้นงาน “MASTERPIECE” ของ 19 แบรนด์ชั้นนำให้แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมถ่ายภาพชื่นชม ดื่มด่ำไปกับเสน่ห์และคุณค่าแห่งงานฝีมือจากช่างศิลป์อันงดงามทันสมัยอย่างใกล้ชิดและเต็มอิ่ม ตั้งแต่คอลเลคชั่นที่เผยเทคนิคของช่างเสื้อในระดับโอต์กูตูร์สำหรับสวมใส่ในโอกาสพิเศษ งานเย็บหนัง เอ็กโซติกด้วยมือทุกขั้นตอนที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของช่างฝีมือ ไปจนถึงงานออกแบบเครื่องแต่งกายที่มีคอนเซ็ปต์และเทคนิคการตัดเย็บสุดอินโนเวทีฟ ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวันในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังมีมุมโฟโต้บูธที่จัดเต็มไว้อย่างอลังการ สำหรับให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าตัวยงวาดลวดลายโพสท่าถ่ายภาพกันได้อย่างสนุกสนานไม่รู้จบ โดยแบ่งประเภทของผลงานศิลป์ชิ้นเอกในระดับมาสเตอร์พีซ ออกเป็น 4 รูปแบบ ประกอบด้วย

· The Masterpiece of Fashion

สัมผัสกับเอ็กซิบิชั่นที่โชว์ความหลากหลายแห่งสไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งได้เป็นผลงานแฟชั่นระดับมาสเตอร์พีซ ที่คุณสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ลุคให้ดูเฉิดฉายได้ในโอกาสต่างๆ เริ่มจากแบรนด์แฟชั่นที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Modern Glamour หรือความหรูหราอันทันสมัย อย่าง POEM ที่นำเสนอชุดเดรสสีดำสุดคลาสสิค ภายใต้คอนเซ็ปต์ “classic with a (big) twist” โดยนำเอาความคลาสสิคของโครงชุดแบบ A-line ในยุค 1950s มาครีเอทในมุมมองใหม่ด้วยการตัดเฉลียง (Bias Cut) ให้เกิดรูปทรงเหมือนถูกบิดเกลียว ทำให้ชุดดูมีความทันสมัยและน่าสนใจมากขึ้น, KLAR LOV กับนิยามแห่งความงามของแบรนด์ที่มักถ่ายทอดมาจากความงามในอุดมคติของเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีชั้นสูงในอดีต นำเสนอคอลเลคชั่นแกะกล่องประจำฤดูกาลสปริง 2018 ในชื่อ “The Marquise” (สนมเอก) กับชุดราตรียาวโก้หรูซึ่งนักออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เรื่อง Versailles (แวร์ซายส์) ด้วยความประทับใจในอาภรณ์ของสุภาพสตรีชั้นสูงที่ใช้ชีวิตอยู่ในราชสำนัก ทั้งรายละเอียด รูปทรง ซิลลูเอท รวมถึงวอลลุ่ม ของเครื่องแต่งกายเหล่านั้น ขณะที่TAWNC. มาในคอนเซ็ปต์ความหรูหราคลาสสิคด้วยชุดราตรีผ้าแจ็คการ์ดจากคอลเลคชั่น “Forbidden Love” ประจำฤดูกาล Autumn/Winter 2018 ที่เปิดตัวล่าสุดจากปารีสแฟชั่นวีค เรื่องราวของความรักที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรค

โดยหยิบยืมแรงบันดาลใจสําหรับโครงชุดนี้มาจาก Wallis Simpson หรือ Duchess of Windsor ผู้เป็นสไตล์ไอคอนแห่งความหรูหรา โดดเด่นสะดุดตาด้วยการเน้นที่วอลลุ่ม และลวดลายอันงดงามเกี่ยวกับดอกไม้และสายลม, PICHITA เลือกแสดงผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยเสื้อคลุมปักมือลาย Chinoiserie ด้วยดิ้นทอง เปลือกหอยมุก แผ่นเลื่อม และแผ่นทอง ที่ให้กลิ่นอายวินเทจ เข้ากันได้ดีกับกางเกงผ้าไหมซาตินเนื้อบางเบาสวมใส่สบาย ต่อกันที่แบรนด์สตรีทแวร์ MATTER MAKERS สำหรับคอลเลคชั่น March 2018 ได้เลือกภาพของเจ้าหญิงไดอานามาเป็นตัวแทนของผู้หญิงหัวก้าวหน้า ที่บ่งบอกสถานะอารมณ์ ความรู้สึกของเธอผ่านทางทุกชุดที่เลือกสวมใส่ออกสู่สายตาสาธารณชน รายละเอียดของยูนิฟอร์ม, ความเป็นผู้หญิงหัวทันสมัย ถูกถ่ายทอดด้วยลายผ้า, การตกแต่ง, ชุดท่อนบน – ล่างที่เข้าคู่กัน เปลี่ยนแนวกันด้วยแบรนด์ที่เน้นการออกแบบเรียบง่ายแต่มีดีไซน์ อย่าง LONELY TWOLEGGED CREATURE กับโอเวอร์ไซส์แจ็คเก็ตตัดแปะแบบศิลปะคอลลาจ (Collage Art) และลายสกรีนตามเสื้อผ้าตลาดนัดมือสองที่มาจากเสื้อผ้าบริจาคแถบโซนยุโรป โดยนำมายำรวมกันภายใต้เทคนิคซ้อนเทคนิค ในโทนสีทมึนอย่างดำ เทา ดำหมอกสีฟอกของยีนส์ ปิดท้ายความแฟนตาซีของเอ็กซิบิชั่นในโซนแฟชั่น ด้วยการเอาใจผู้ที่หลงใหลในความแตกต่างอันโดดเด่นจากหมวกแฮนด์เมดแบรนด์ KABURI หมวกแฮนด์เมดรูปทรง Crush Open Crown ที่หยิบแรงบันดาลใจมาจากลายผ้ามัดย้อม โดยใช้เทคนิคการสเปรย์สีอะคริลิกลงบนกระดาษฉลุลาย แล้วใช้วิธีเผาไฟเพิ่มความดิบแต่เท่ตามสไตล์ KABURI จากนั้นตกแต่งสร้างลุคให้ดูคอนทราสต์ด้วยขนนกสีสดเพิ่มความเป็นมาสเตอร์พีซอีกระดับ

· The Masterpiece of Accessories

นำเสนอคอลเลคชั่นเครื่องหนังฝีมือสุดประณีตสะท้อนความหรูหราด้วยเค้าโครงอันเฉียบคมผนวกกับ ผืนหนังที่มีผิวสัมผัสเนียนนุ่ม จาก 3 แบรนด์กระเป๋าและเครื่องหนังชั้นนำที่ล้วนเป็นไฮไลท์ต้องแวะของเกษรวิลเลจ ไม่ว่าจะเป็นผลงานลิมิเต็ดอิดิชั่นจากแบรนด์คุณภาพระดับท็อปอย่าง METTIQUE กับกระเป๋าทรงสูงรุ่น “Dolph Mini F” ที่ผลิตด้วยหนังจระเข้อัลลิเกเตอร์ (Alligator Mississippiensis) ภายใต้เทคนิคชั้นสูงเย็บด้วยมือ (Hand Stitch) 100% ในทุกขั้นตอน โดยสี Ivory Prestige เฉดสีเอกลักษณ์ที่สร้างความต่างไม่เหมือนใคร, กระเป๋าสะพายรุ่น “Olivia XS - Simplified Exotic” จากแบรนด์ PHYA คือนิยามของการนำความงดงามเอ็กโซติกอย่างไทย และงานฝีมือช่างชั้นสูงมาตีความใหม่ให้กลายเป็นชิ้นงานดีไซน์ที่ดูโดดเด่นในแบบเฉพาะตัว สวยเรียบง่าย และไร้กาลเวลา ในขณะที่แบรนด์ ROCHELLE ภูมิใจนำเสนอกระเป๋ารุ่น “ELLE” ศิลปะบนผืนหนังจระเข้ ที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงที่เน้นความพิถีพิถัน เรียบหรู แต่แฝงไว้ด้วยรายละเอียด ทำจากหนังจระเข้น้ำเค็ม (Porosus) ที่มีลวดลายละเอียดสวยงามและมีมูลค่าสูง ภายใต้เทคนิคการฟอกย้อมแบบพิเศษที่เก็บลวดลายธรรมชาติไว้ได้ยาวนาน หรือที่เรียกว่า “หนังไม่ร้างลาย”

· The Masterpiece of Fine Jewelry

ระยิบระยับละลานตาด้วยเครื่องประดับเพชรและอัญมณีล้ำค่าจากไฮจิวเวลรี่แบรนด์ อย่าง BUSSARAKAM กับจี้บุษราคัมน้ำงามประดับเพชร พร้อมสร้อยเพชรแฮนด์เมดบนตัวเรือนทองขาวและทอง, CLEAR JEWELRY รังสรรค์นกยูงความสูง 10 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์โดยทีมช่างฝีมือเรื่องเครื่องประดับชั้นสูงมานานกว่า 10 ปี ประดับเพชรทั้งตัว แล้วแต่งเติมความหรูหราสะดุดตาด้วยมรกตขนาดใหญ่เป็นชิ้นเดียวของร้าน Clear Jewelry และเป็นชิ้นเดียวในโลก, CHERISH คัดสรรเพชรและอัญมณีน้ำงามรังสรรค์เป็นสร้อยข้อมือสีแดงทับทิมพม่าคุณภาพดีโดดเด่น ที่ดูคล้ายศิราภรณ์(เครื่องประดับศีรษะ) ของชุดนางรําโบราณ หากแต่ได้รับการปรับดีไซน์ให้เรียบหรูและสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจําวันในหลากหลายโอกาส ประดับด้วยทับทิม เพชร และทองมาพร้อมแหวนเข้าชุดเพื่อแต่งเติมความเจิดจรัสให้ยิ่งสมบูรณ์แบบ, NINE GEMS เชื่อว่าเครื่องประดับสามารถบอกเล่าเรื่องราวเฉพาะตัวของคุณด้วยจี้และเข็มกลัด ทําจากทองคําขาวประดับด้วยเพชรน้ำงาม ผสมผสานด้วยพลอยที่มีเอกลัษณ์เฉพาะ ประกอบด้วยทับทิมกิมบ่เซี่ยงจากพม่า ไพลินจากศรีลังกา และหยกแกะสลักจากจีน งานชิ้นนี้สามารถประยุกต์ใส่ได้ถึง 9 แบบ เป็นผลงานการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีเพียงชิ้นเดียวในโลก, P.T. HOUSEผลงานดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างสร้อยข้อมือเข้ากับแหวน รังสรรค์ออกมาเป็นลูกผสมแหวนเพชรเลื้อยร้อยระย้า ดั่งเถาวัลย์หรูหราเลอค่าร้อยกระหวัดรัดรอบข้อมือ เข้ากับเซ็ตสร้อยเพชรหยดน้ำค้างและเอียร์คัฟปีกนางฟ้างดงามวิจิตรตระการตา, THARIS จิวเวลรี่ดีไซน์ที่นำมิติแห่งการออกแบบสมัยใหม่มาผสานเข้ากับอิทธิพลของศิลปะ วัฒนธรรม สัญชาตญาณ และความขัดแย้ง กลายเป็นผลงานที่เปี่ยมไปด้วยความซับซ้อนน่าค้นหา และทรงพลัง ล่าสุดกับคอลเลคชั่น “Butterflies in my Stomach” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาการแรกเริ่มของคนกำลังอินเลิฟ เหมือนมีผีเสื้อนับร้อยบินอยู่ในท้อง ซึ่งในครั้งนี้ตั้งใจให้ชิ้นงานดูหวานมากขึ้น โดยใช้พลอยสีต่างๆ มาแต่งแต้มเพิ่มสีสัน

· The Masterpiece of Fashion Jewelry

เอ็กซิบิชั่นที่จะพาคุณท่องโลกเครื่องประดับพร้อมอัพเดทเทรนด์แฟชั่นจิวเวลรี่นำสมัยดีไซน์สุดครีเอทที่น่าจับตามองประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 เริ่มด้วย LOTUS ARTS DE VIVRE พบความงดงามหรูหรา ภายใต้แรงบันดาลใจที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเอเชียกับวัสดุจากธรรมชาติชั้นเลิศ ถ่ายทอดผ่านงานดีไซน์ร่วมสมัย ที่คราวนี้นำเสนอด้วยผลงาน “Scrab Collection” งานศิลป์ระดับมาสเตอร์พีซที่รังสรรค์จากปีกของบรรดาแมลงปีกแข็งทั่วภาคพื้นเอเชีย นำมาตีความพร้อมประดับประดาเป็นคอลเลคชั่นเครื่องประดับอันโดดเด่นและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว แต่ละปีกได้รับการทาสีลงยาและขัดอย่างประณีตบรรจงในทุกรายละเอียด ประกอบไปด้วย สร้อยคอประดับมุกน้ำจืด ซิทริน พลอยโรโดไลท์, กระเป๋าถือรูปนกแก้วประดับบราวน์ไดมอนด์และทับทิม, ต่างหูปีกนกประดับพิงค์ทัวร์มาลีนและไอซ์ไดมอนด์ และแหวนประดับพิงค์แซฟไฟร์, แบรนด์ STUDIO21 ORIGINAL JEWELRY ชวนคุณปลดปล่อยความสุขและความสดใส ผ่านสร้อยคอเส้นใหญ่สีสันสดใสเจิดจรัส โครงสร้างของงานใช้วัสดุ Silver 925 เคลือบผิวด้วยทอง (Real Gold Plating) และมีการเติมแต่งด้วยอัญมณี และพู่ห้อยหลากสี สุดท้ายกับแบรนด์เครื่องประดับอัญมณีคุณภาพดีซึ่งเป็นที่รู้จักระดับโลกอย่าง OLIVIADIAMONDS มาพร้อมคอนเซ็ปต์ One of the Kind: มีแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น ด้วยแรงบันดาลใจจากรูปทรงของดอกกุหลาบ รังสรรค์ออกมาเป็นสร้อยดอกไม้ลงยาแบบ Enamel ขอบดอกไม้เป็น White Topaz ตัวเรือนเป็นเงิน ซึ่งนอกจากจะเป็นสร้อยคอขนาดโอเวอร์ไซส์สวยหรูแล้ว ยังสามารถประยุกต์เป็นเฮดพีซที่ไม่มีวันซ้ำใคร โดยแอคเซสเซอรี่ชิ้นสวยระดับมาสเตอร์พีซนี้ยังถูกดัดแปลงให้กลายเป็น Installation สุดเก๋เพื่อให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้สนุกกับการครีเอทภาพถ่ายในสไตล์ของตน

นอกจากจะเพลิดเพลินกับแฟชั่นเอ็กซิบิชั่นในงาน GAYSORN S/S 2018 “THE MASTERPIECE” EXHIBITION เกษรวิลเลจยังเอาใจแฟชั่นนิสต์นักช้อปฯ ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อช้อปปิ้งภายในเกษรวิลเลจ ครบ 300,000 บาทขึ้นไป มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมากมายจากแบรนด์ชั้นนำภายในเกษรวิลเลจ (โดย Top Spender จำนวน 3 ท่าน ที่มียอดซื้อสะสมสูงสุดตลอดแคมเปญ รับตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ-สมุย ที่นั่ง Business Class จากสายการบิน Bangkok Airways พร้อมที่พักโรงแรมสุดหรู InterContinental Samui ห้อง Club Beachfront Pool Villa จำนวน 3 วัน 2 คืน) และรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 18% เมื่อช้อปปิ้งผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 30 เมษายนนี้

ร่วมเปิดประสบการณ์แฟชั่นในรูปแบบใหม่ ไปกับสุดยอดผลงานระดับมาสเตอร์พีซ จาก 19 แบรนด์ชั้นนำได้ใน GAYSORN S/S 2018 “THE MASTERPIECE” EXHIBITION ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายนศกนี้ ณ ชั้น G เกษรวิลเลจ


LATEST ARTICLES
TOP Share
Social