ปัญญ์ปุริ ตอกย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำ Clean Beauty ผลักดันแคมเปญ ความงามที่แท้จริงแบบยั่งยืน “Clean Beauty and Sustainability”

ปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) Clean Beauty สกินแคร์ และเวลเนส ไลฟ์สไตล์แบรนด์ ตอกย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำ ด้านความงามที่แท้จริงแบบClean Beauty แบรนด์แรกในประเทศไทยปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมพร้อมผลักดันแคมเปญ ‘Clean Beauty andSustainability’ ความงามที่แท้จริงแบบยั่งยืน นำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และบริการจากปัญญ์ปุริที่บริสุทธิ์ปลอดภัยต่อสุขภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ปรับเปลี่ยนภายในองค์กรทั้งหมด พร้อมทั้งเริ่มต้นกิจกรรมกระตุ้นการสร้างจิตสำนึกเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าอย่างสูงที่สุด

ก่อตั้งในปี 2546 กว่า 17 ปีที่ปัญญ์ปุริมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ และออร์แกนิค เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี ชีวิตสมดุลและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยมีรากฐานอยู่บนคุณค่าสำคัญของแบรนด์ 3 ประการ ได้แก่ ความบริสุทธิ์ (Purity) ความรื่นรมย์ (Pleasure) และประสิทธิภาพ (Result) โดยทุกผลิตภัณฑ์และบริการจากปัญญ์ปุรินั้นต้องผ่านการคัดสรรวัตถุดิบบริสุทธิ์จากธรรมชาติและออร์แกนิค ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ZeroList™ ลิขสิทธิ์เฉพาะจากปัญญ์ปุริ โดยปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกว่า 2,300 รายการ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยขั้นตอนในการสรรหานั้นเริ่มตั้งแต่การค้นหาวัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิต และการคัดเลือกบริษัทคู่ค้า (Supplier) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดเลือกบริษัทคู่ค้า (Supplier) ปัญญ์ปุริให้ความสำคัญอย่างมาก ถึงคุณภาพมาตรฐานการผลิต จุดยืนในการทำธุรกิจที่มีจรรยาบรรณ และยั่งยืนอีกด้วย

สำหรับก้าวสำคัญอีกก้าวของแบรนด์ในปี พ.ศ. 2563 นี้ ปัญญ์ปุริพร้อมพัฒนาสู่อีกขั้นเพื่อเป็นแบรนด์ Clean Beauty ไทยแบรนด์แรกที่นำเสนอความงามที่แท้จริงแบบยั่งยืนผ่านการจัดการทั้งองค์กรภายใต้คอนเซ็ปต์ Net Zero Emission ตั้งเป้าหมายด้วยการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศให้ได้มากที่สุดผ่านการจัดการในทุกภาคส่วนในองค์กรอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมกับโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรือการปลูกป่า เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในส่วนที่ยังรอการพัฒนาให้ได้สำเร็จภายใน 5 ปี หรือภายใน พ.ศ 2569 นี้

ปัญญ์ปุริ ตระหนักดีถึงข้อจำกัดของการงดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างสิ้นเชิงนั้นยังต้องรอการพัฒนาในเรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคตปัญญ์ปุริจึงขอนำร่องเริ่มการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศให้มากที่สุดและเลือกชดเชยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิต ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรือ การปลูกป่าทดแทนเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจกโดยจะเน้นเป็นประเภทป่าอนุรักษ์อย่าง “ป่าชายเลน” เพราะเป็นป่าที่มีคุณประโยชน์ต่อทรัพยากรทางธรรมชาติสูงสุดทั้งเป็นประเภทป่าที่มีอัตราการสังเคราะห์แสงที่สูงมาก และสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อเปลี่ยนเป็นก๊าซออกซิเจนได้สูงที่สุดรวมถึงยังเป็นแหล่งอนุบาล และแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำช่วยรักษาระบบนิเวศวิทยา รักษาสมดุลของแร่ธาตุในน้ำและความอุดมสมบูรณ์ของน้ำ และที่สำคัญยังสามารถเป็นแหล่งดูดซับสารพิษหรือโลหะหนักไม่ให้ไหลลงสู่ท้องทะเล และยังป้องกันการพังทะลายของหน้าดินเสมือนป้อมปราการบรรเทาความรุนแรงของคลื่นลม และน้ำได้เป็นอย่างดี

โดยเป้าหมายในการปลูกป่าชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตสินค้าของปัญญ์ปุรินั้นทางบริษัทฯตั้งเป้าภายในปี 2564 ด้วยการปลูกป่าชายเลนในเขตอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีเป็นจำนวนถึงกว่า 20 ไร่เป็นอย่างน้อยซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตทั้งบริษัทได้ถึง 5% ในปีแรก

วรวิทย์ ศิริพากย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปุริ จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายในอนาคตของปัญญ์ปุริว่า “ปัญญ์ปุริ ยึดมั่นในคุณค่า และวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการมอบความบริสุทธิ์ให้กับลูกค้า และต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งทางผลิตภัณฑ์และบริการที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และออร์แกนิคมาตั้งแต่เริ่มต้น ตลอด 17 ปีที่ผ่านมาปัญญ์ปุริมีการพัฒนา และวิจัยมาอย่างต่อเนื่องในส่วนของผลิตภัณฑ์ ส่วนผสมวิธีการผลิต และบรรจุภัณฑ์ ในส่วนของส่วนผสมนั้นปัญญ์ปุริก่อตั้งมาตรฐานความปลอดภัย ZeroList™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่ถือเป็นเครื่องการันตีถึงความปลอดภัยต่อทั้งสุขภาพของลูกค้าไม่ทำร้ายสัตว์ และสิ่งแวดล้อมกว่า 2,300 รายการ ซึ่งถือได้ว่าเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดในตลาดความงามของไทยในขณะนี้

สำหรับบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปุริอยู่ใน “รุ่นที่ 3” ซึ่งมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนทั้งรูปแบบการดีไซน์และวัสดุเพื่อตอบรับกับนโยบายของบริษัทในเรื่องของการบริโภคอย่างยั่งยืน ซึ่งปัญญ์ปุริได้พัฒนามาถึงจุดที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกล่องบรรจุภัณฑ์หรือ Naked Packaging แต่ยังมีความคงทนและสามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างดีไม่มีบกพร่องรวมถึงได้มาตรฐานสามารถส่งออกได้กว่า 20 ประเทศทั่วโลกปัญญ์ปุริยังคงมุ่งมั่นที่พัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งในฐานะของ Clean Beauty แบรนด์ไทยรายแรก และรายเดียวในประเทศไทย และมีเป้าหมายที่จะก้าวสู่แบรนด์ความงามสัญชาติไทย Clean Beauty ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero Emission ได้เป็นรายแรกในระยะเวลา 5 ปี ข้างหน้านี้”

จากการตั้งเป้าภายในองค์กรปัญญ์ปุริที่ในเรื่องความงามที่แท้จริงแบบยั่งยืนปัญญ์ปุริ มีการปรับในทุกภาคส่วนเพื่อให้สอดคล้อง โดยมีหลักการสำคัญ 5 ประการดังนี้

1. การออกแบบ และการจัดหา (Design and Sourcing) ปัญญ์ปุริให้ความสำคัญอย่างมากในการออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งรูปแบบการใช้งานความสวยงาม และต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอด 17 ปี ที่ผ่านมาได้เน้นเลือกใช้วัสดุรักษ์โลกมากที่สุด และให้ความสำคัญด้านการเลือกบริษัทคู่ค้าการผลิตหรือ supplier ที่มีคุณธรรม มีการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเท่านั้นและเพื่อตอบรับกับนโยบายองค์กร ในปี 2563 ปัญญ์ปุริได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายกลุ่มที่ตอบรับกับนโยบายบริษัทในเรื่องของการบริโภคอย่างยั่งยืนเช่น ผลิตภัณฑ์ถุงเติม หรือ ถุงรีฟิว ในผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาด และบำรุงผิวกาย ที่สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ถึงกว่า 80% และใช้พลังงานในการขนส่งลดลงอีกกว่า50 เท่า พร้อมทั้งต่อยอดด้วยแคมเปญ Clean Beauty Eco-Refills ทุกยอดจากการจำหน่ายถุงรีฟิว 1 ชิ้นจากร้านปัญญ์ปุริ เฉพาะสาขาในประเทศไทย ปัญญ์ปุริจะคิดเป็นการปลูกต้นไม้ 1 ต้น เพื่อร่วมปลูกในโครงการปลูกป่าชายเลนจังหวัดเพชรบุรี โดยแคมเปญนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 นี้* (ค่าใช้จ่ายในการปลูกต้นไม้ 1 ต้นเท่ากับ 9 บาท และจำกัดยอดปลูกในแคมเปญนี้ถึงวันที่31 มีนาคม 2564 จำนวน 10,000 ต้น*)

นอกจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มถุงรีฟิว ปัญญ์ปุรินำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากบรรจุภัณฑ์หรือ Naked Packaging ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและเส้นผมกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติประเภทกระดาษและพลาสติก โดยสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้มากสูงสุดถึง 45% แต่ยังคงรักษาความคงทน และสามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้แบบไร้ข้อแตกต่าง

2. การผลิต (Production) ปัญญ์ปุริปรับเปลี่ยนวัสดุบรรจุภัณฑ์เพื่อเป้าหมายในเรื่องรักษ์โลกอย่างต่อเนื่องเช่นการพิมพ์ด้วยหมึกถั่วเหลือง (Soy Ink Printing) เพื่อให้กระดาษของบรรจุภัณฑ์นั้นสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้นและปราศจากสารพิษจากการผลิต และการเลือกใช้กระดาษที่ไม่มีการเคลือบสารคลอรีน (Chlorine Free Paper) เพื่อลดมลพิษทางอากาศในการผลิตและลดโอกาสการทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย หรือเป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำ และสัตว์น้ำ

นอกจากนี้ยังมีการเริ่มปรับเปลี่ยนกล่องบรรจุภัณฑ์ในช่องทางการขายออนไลน์(E-Commerce)ให้รักษ์โลกมากยิ่งขึ้น โดยเลือกใช้กระดาษประเภท เยื่อเวียนทำใหม่ (Recycled Pulp) เยื่อที่ทำจากผลิตภัณฑ์กระดาษที่ผ่านการบริโภคแล้วถึงกว่า95%

3. การขนส่ง (Transportation) ปัญญ์ปุริมีการปรับเปลี่ยนการขนส่งอย่างเป็นระบบจำกัดการขนส่งจากคลังสินค้า สู่ร้านปัญญ์ปุริเพื่อประหยัดการใช้พลังงาน และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้รถยนต์ รวมถึงฝุ่น PM2.5 ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานในการขนส่งได้ถึง 15% นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ประเภทถุงรีฟิวที่มีจำหน่ายของปัญญ์ปุรินั้นยังลดปริมาณการใช้พลังงานในการขนส่งผลิตภัณฑ์ได้ถึง 80% เพราะมีน้ำหนักเบา และมีการจัดการด้านขนส่งที่สะดวกกว่าการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องนอกจากนี้ในส่วนของช่องทางการขายออนไลน์ ปัญญ์ปุริมีแผนยกเลิกการใช้พลาสติกในการจัดส่งของให้ลูกค้าในอนาคต

4. การบริโภค (Consumption) ในด้านการบริโภค ปัญญ์ปุริ มีกิจกรรม NO BAG THURSDAY ลดการมอบถุงshopping bag ให้กับลูกค้า ในทุกวันพฤหัสบดีณ ร้านปัญญ์ปุริที่ร่วมรายการ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างประหยัดและเป็นการรณรงค์ให้ลูกค้านำถุงที่มีอยู่แล้วกลับมาใช้ใหม่โดยลูกค้าที่ร่วมกิจกรรมนี้จะได้รับของขวัญพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณในการลดปริมาณการใช้ถุงกระดาษและช่วยรักษ์โลกอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้หากลูกค้าประสงค์ต้องการถุง shopping bag ปัญญ์ปุริขอร่วมบริจาคเป็นจำนวนเงิน 9 บาท เพื่อสมทบทุนในโครงการปลูกป่าชายเลนของปัญญ์ปุริจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเงินบริจาคจำนวน 9 บาทนี้เทียบเท่ากับการค่าใช้จ่ายในการปลูกต้นไม้และดูแลรักษาจำนวน 1 ต้นถือได้ว่าลูกค้าจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวโครงการปลูกป่าชายเลนของปัญญ์ปุริด้วยเช่นเดียวกัน

ในปี 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดความงามแบบยั่งยืนปัญญ์ปุริมีแผนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Refill Station หรือจุดเติมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภททำความสะอาดผิว และดูแลผิวเพื่อลดปริมาณการผลิต และการใช้บรรจุภัณฑ์ และหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกเรื่องการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติโดยเน้นจับกลุ่มลูกค้ารักสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สำหรับธุรกิจบริการที่ปัญญ์ปุริ เวลเนส และปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา โรงแรม ปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนภายในบริเวณพื้นที่ให้บริการ อาทิ การยกเลิกใช้ขวดน้ำพลาสติกและหลอดดื่มน้ำโดยปรับเปลี่ยนเป็นการให้บริการน้ำ infused ผลไม้ออร์แกนิค ซึ่งจะสามารถลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้ถึงกว่า 60,000 ขวดต่อปี และปรับเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองประเภทพลาสติกในส่วนของamenities ที่ให้บริการในบริเวณสปาให้มากที่สุด พร้อมทั้งมีการบำบัดน้ำเสียที่ใช้ภายในปัญญ์ปุริ เวลเนสด้วยวิธีธรรมชาติด้วยการเติมจุลินทรีย์ลงในน้ำที่ใช้แล้ว เพื่อกำจัดไขมัน และควบคุมคุณภาพของน้ำก่อนปล่อยลงสู่บ่อบำบัดของอาคารเป็นการช่วยรักษาระบบนิเวศทางน้ำอีกด้วย

5. การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycling) ปัญญ์ปุริมีแผนในการตั้งจุดรับบรรจุภัณฑ์ ณร้านปัญญ์ปุริ เพื่อนำส่งโรงงานแยกขยะรีไซเคิล หรือ Recycling Station ในผลิตภัณฑ์ประเภทดูแลผิวกาย เส้นผมและผิวหน้า โดยไม่จำกัดแบรนด์ พร้อมตอบแทนลูกค้าที่ร่วมกิจกรรมด้วยส่วนลด เพื่อสร้างจิตสำนึก และรณรงค์ให้เกิดการลดปริมาณขยะมากขึ้นในวงกว้างโดยจะจัดการแยกประเภทของวัสดุ พร้อมทั้งให้ความรู้ในการแยกวัสดุของขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลให้ถูกต้อง นอกจากนี้ในธุรกิจบริการก็มีการจัดการเรื่องการแยกขยะภายในปัญญ์ปุริ เวลเนสให้อย่างเป็นระบบอีกด้วย

ปัญญ์ปุริมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ความงามที่แท้จริง และยั่งยืนตามคอนเซ็ปต์ ‘Clean Beauty and Sustainability’ แก่ผู้บริโภค เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่บริสุทธิ์ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม และยังมีความรับผิดชอบต่อสังคมและร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้ไปด้วยกัน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมความงามที่แท้จริงแบบยั่งยืนจากปัญญ์ปุริได้แล้วที่ปัญญ์ปุริทุกสาขาปัญญ์ปุริ เวลเนส และปัญญ์ปุริ ออร์แกนิค สปา โรงแรม ปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล MEDIA@PANPURI.COM หรือทางเว็บไซด์ PANPURI.COM รวมไปถึง Facebook, Twitter, Instagram, Weibo ในชื่อ @panpuriofficial และ Line@ในชื่อ @PANPURI


LATEST ARTICLES
TOP Share
Social