แสนสิริ บริษัทแรกในไทยที่ได้ร่วมลงนามในสัญญา UN Global Standards of Conduct forBusiness

แสนสิริต่อยอดวิสัยทัศน์การสนับสนุน ให้ความสำคัญ และสร้างความเท่าเทียม กับกลุ่ม LGBTI ในช่วง Pride Month เดือนแห่งการรณรงค์ความเท่าเทียมทางเพศด้วย แคมเปญ Everyone IsFamily แคมเปญที่ปรับมุมมองต่อคนรอบตัวให้เหมือนกับทุกคนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวนำร่องด้วยการออกนโยบายความเท่าเทียมในองค์กร รองรับสิทธิแก่พนักงานและคู่ค้ารวมถึงงานศิลปะ คอมมูนิตี้แลนด์มาร์คที่สร้างแรงบันดาลใจ และมีความหมายดีๆพร้อมช่วยผลักดันร่วมกับธนาคารพันธมิตร เรื่องการขอสินเชื่อบ้านของชาว LGBTI และมอบข้อเสนอโปรโมชั่นพิเศษผ่อนให้ 24 เดือน

แสนสิริ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจไทยเป็นบริษัทแรกในไทยที่ได้ลงนามในข้อตกลง United Nations GlobalStandards of Conduct for Business หรือ มาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อลดการแบ่งแยก และความเหลื่อมล้ำในกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBTI ซึ่งย่อมาจากLesbian (หญิงรักหญิง)Gay (ชายรักชาย)Bisexual (คนรักสองเพศ)Transgender (คนข้ามเพศ) Intersex (อินเทอร์เซ็กส์หรือเพศกำกวม) แสนสิริมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยให้ทุกเพศทุกกลุ่มรู้สึกมีส่วนร่วมตามหลักความเท่าเทียมและความหลากหลายอันเป็นค่านิยมหลักที่แสนสิริยึดถือสะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของแสนสิริ Madefor Everyone ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ต้นปีที่ผ่านมา

ผู้บริหารระดับสูงของแสนสิริจากทุกภาคส่วนต่างเข้าร่วมพิธีลงนามในข้อตกลงUN Standards of Conduct for Business ซึ่งจัดขึ้น ที่สิริแคมปัส (Siri Campus) สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของแสนสิริตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 77

ผู้บริหารของแสนสิริที่ร่วมลงนามในข้อตกลงดังกล่าวนำทัพโดย คุณอภิชาติ จูตระกูล (ประธานอำนวยการ) คุณเศรษฐา ทวีสิน (กรรมการผู้จัดการใหญ่) และคุณวันจักร์ บุรณศิริ (ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ)ณ พิธีลงนามครั้งสำคัญนี้ ยังได้รับเกียรติเข้าร่วมโดย คุณบาดาร์ ฟารุกหัวหน้าทีมประเทศไทยแห่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ(Officeof the United Nations High Commissioner for Human Rights: OHCHR) และคุณเรอโนเมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (United NationsDevelopment Programme: UNDP) เพื่อแสดงความสนับสนุนความตั้งใจของแสนสิริเมื่อได้ลงนามในข้อตกลงในครั้งนี้เป็นผลให้แสนสิริได้เข้าร่วมกับ กลุ่มบริษัทระดับโลกกว่า****200 บริษัท ไม่ว่าจะเป็นไมโครซอฟต์ กูเกิ้ล โคคา-โคล่าเน็ตฟลิกซ์ และไนกี้ เป็นต้นซึ่งบริษัทเหล่านี้ต่างมีความตั้งใจร่วมกันที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้แก่สังคม

UNStandards of Conduct for Business หรือมาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาติ (UN)นั้นเขียนขึ้นโดยสำนักงานของข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (Officesof the United Nations High Commissioner for HumanRights - OHCHR)โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ 5 หลักการทางธุรกิจซึ่งแสนสิริได้ลงนามที่จะยึดมั่นเพื่อปรับใช้ในสถานที่ทำงาน การดำเนินการค้าขายรวมถึงในชุมชน

  1. เคารพสิทธิมนุษยชน ของกลุ่ม LGBTI ในทุกการดำเนินการและความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

  2. ขจัดการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ ที่มีต่อพนักงานที่เป็น LGBTI ในสถานที่ทำงาน

  3. ให้การสนับสนุนเชิงรุก แก่พนักงานที่เป็น LGBTI โดยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวก สร้างความเชื่อมั่นซึ่งช่วยให้พนักงานทุกท่านทำงานร่วมกันได้อย่างมีเกียรติ

  4. ป้องกันการละเมิดสิทธิ มนุษยชน ซึ่งอาจเกิดจากการกีดกันต่อลูกค้า คู่สัญญา คู่ค้ารวมถึงบุคคลอื่นๆ

  5. ผลักดันประเด็นเรื่องความเท่าเทียม อย่างเป็นสาธารณะ ซึ่งอาจรวมไปถึงการรณรงค์ในที่สาธารณะ สนับสนุนให้เกิดข้อตกลงการปฏิบัติร่วมกันกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยในสังคม หรือการให้ความสนับสนุนทางการเงินหรือปัจจัยต่างๆต่อองค์กรที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของ LGBTI

“แสนสิริ ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุน UNStandards of Conduct เพราะวัฒนธรรมองค์กรที่ดีควรจะเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและลดการกีดกันในสถานที่ทำงานแสนสิริเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรได้รับสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียมกันนโยบายเสริมการยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมนี้ คือการบอกว่าทุกคนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแสนสิริเริ่มตั้งแต่การรับสมัครพนักงาน แสนสิริต้องการคนที่เก่งแหละเหมาะสมที่สุดมาร่วมงานเราเสมอดังนั้นหากเราไม่พิจารณาคนที่มีความสามารถจากทุกๆกลุ่มอย่างเท่าเทียมและไม่แบ่งแยกแล้ว เราก็จะไม่สามารถมอบโครงการและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราได้แสนสิริจึงต้องการเปิดรับทุกๆ คนได้มีโอกาสแสดงความสามารถเพื่อที่จะทำให้แสนสิริเป็นองค์กรที่ให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง” คุณเศรษฐา ทวีสินกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว

“ผมว่ามันคุ้มที่จะนำเอาความเท่าเทียมทางเพศและการไม่แบ่งแยกมาเป็นข้อปฏิบัติในทาง มีผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าสถานที่ทำงานใดที่ให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมนั้นจะมีผลประกอบการที่ดีกว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำตามข้อปฏิบัตินี้เพราะจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่ให้ความใส่ใจกับความเท่าเทียมรวมถึงยังดึงดูดพนักงานผู้มีความสามารถให้เข้าร่วมและอยู่กับบริษัทได้ยาวนานกว่า และไม่ว่าจะเป็นเพศวิถี(Sexuality) หรือเพศสภาพ (Gender) ใดพนักงานทุกคนต่างแสดงถึงความพอใจที่มีต่องานในบริษัททีทำตามข้อปฏิบัตินี้อีกด้วย”

“ที่แสนสิริ เราได้สร้างการป้องกันการแบ่งแยกทางเพศในที่ทำงานโดยจะมีโปรแกรมฝึกอบรมในเรื่องของความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกให้กับพนักงานของบริษัทพนักงานระดับบริหาร รวมถึงพนักงานขายที่อยู่ในโครงการของแสนสิริอีกด้วยโดยการฝึกอบรมนี้จะพูดถึงโอกาสที่เท่าเทียมและข้อปฏิบัติเพื่อความไม่แบ่งแยกซึ่งจะปรับใช้กับการทำธุรกรรมในทุกระดับกับลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา และบุคคลอื่นๆด้วย”

การที่แสนสิริได้ลงนามและปฏิบัติตาม UN Standards of Conduct นั้น เป็นแนวคิดที่เข้ากันอย่างลงตัวกับปรัชญาหลักของการดำเนินธุรกิจของแสนสิริที่ว่า “Made for Life” ซึ่งขับเคลื่อนให้เกิดแคมเปญ Pride Month ซึ่งในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “Made for Everyone…Everyone is Family” ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะย้ำถึงความเข้าใจ ความเท่าเทียมและความห่วงใยที่ซึ่งแสนสิริอ้าแขนเปิดรับพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ และสมาชิกในชุมชนทุกๆคน ราวกับว่าเป็นสมาชิกในครอบครั้งอย่างไรอย่างนั้น

แคมเปญรณรงค์ PrideMonth ของแสนสิรินั้นมุ่งหมายในการสร้างการรับรู้ การยอมรับกลุ่ม LGBTI ในวงกว้างทั้งจากคอมมูนิตี้ และสังคมไทย ด้วยการนำเฉดสีรุ้งที่เป็นสัญลักษณ์ของ PrideMonth มาปรับใช้ในตราสัญลักษณ์ของแสนสิริและบริษัทในเครือรวมถึงสร้างกิจกรรมออนไลน์หลากหลายรูปแบบให้คนทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้

นอกจากนี้ ที่ SiriCampus สำนักงานใหญ่ของแสนสิริรวมถึงในโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆทั่วกรุงเทพฯ ของแสนสิริ (อาทิ The Line พหลฯ ประดิพัทธ์, คณาสิริ ราชพฤกษ์ 346,คาวะ เฮ้าส์) ก็จะมีการจัดแสดงงานศิลปะบนฝาผนังและกำแพงซึ่งแสนสิริเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในแคมเปญนี้ โดยเพียงเข้ามาถ่ายภาพและโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และใช้แฮชเท็ก #SansiriPride

SansiriBackyard at T77 Community” คือคอมมูนิตี้สีเขียวสำหรับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและยกระดับความเป็นอยู่ในช่วงเดือนแห่งการรณรงค์เพื่อความเท่าเทียมนี้ ผู้เยี่ยมชมจะสามารถเก็บผักผลไม้สดในหลากหลายสีสันของสายรุ้งกลับไปฝากคนที่บ้านได้ณ ทางเข้าสวน ก็จะมีงานศิลปะอินสตัลเลชั่นภายใต้แนวคิด “ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ” ด้วยการนำสายรุ้งที่นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ในเดือนPrideมาออกแบบแล้วยังสื่อสารถึงการมอบกำลังใจให้กับคนในคอมมูนิตี้ ที่เผชิญปัญหามากมายตั้งแต่ต้นปีให้มีกำลังใจสู้ และมีความหวังอยู่เสมอเสมือนกับสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้าหลังจากพายุโหมกระหน่ำ

สิริเฮ้าส์ ศูนย์รวมด้านไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมของแสนสิริในซอยสมคิดยังได้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ผู้นำในโลกโซเชียลมีเดียมาร่วมจัดหลากกิจกรรมออนไลน์และสร้างคอนเท้นต์ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Stayat Home' ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน

อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญที่สิริ แคมปัสได้มีการออกแบบ และจัดสรรห้องน้ำที่ไม่ระบุเพศ (GenderNeutral Restroom) ไว้ที่ชั้น 1 ของทุกอาคาร เพื่อแสดงการไม่แบ่งแยกและเป็นพื้นที่ที่ปราศจากการกีดกั้นสร้างความสะดวกสบายใจให้กับผู้ใช้บริการกับทุกเพศทุกวัย

เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อตอกย้ำนโยบายเสริมการยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมแสนสิริยังพร้อมช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า LGBTI ที่ต้องการกู้ซื้อบ้านเพื่อสร้างครอบครัวร่วมกัน

ด้วยความร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ ไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ธนาคารออมสิน (GSB) และธนาคารยูโอบี (UOB) แสนสิริได้ดำเนินการความร่วมมือครั้งนี้เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านได้อย่างสะดวกสบายขึ้น นอกจากนี้ แสนสิริยังมอบข้อเสนอโปรโมชั่นพิเศษด้วยการช่วยผ่อนชำระในช่วง 24 เดือนแรก

“แสนสิริยังคงยืนหยัดเป็นแนวหน้าของการมอบสิ่งดีๆให้กับทุกคนในครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วยพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และชุมชน ด้วยคุณภาพ การบริการและความเคารพอย่างดีที่สุดเสมอ โดยการลงนามในสัญญา UN Standards ofConduct for Business ครั้งนี้ ถือเป็นปฏิญาณที่จะมอบการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและยุติธรรมให้กับทุกภาคส่วนละเลิกการกีดกันและการล่วงละเมิดต่อคนในกลุ่ม LGBTI และเรายังคงยืนหยัดจะทำงานในทุกๆวันเพื่อให้สังคมได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน” คุณเศรษฐากล่าวทิ้งท้าย

#SansiriPride #MadeForEveryone #EveryoneIsFamily


LATEST ARTICLES
TOP Share
Social