คาร์เทียร์ ร่วมเชิดชูเกียรติผู้ได้รับรางวัล Impact Awards 2025 จากโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีเพื่อสังคมระดับโลก

คาร์เทียร์ จัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการหญิง 9 คน จากทั่วโลก ในงาน Impact Awards 2025 ณ ศูนย์ศิลปะการแสดงซาไก ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติร่วมงานกว่า 800 คน เพื่อยกย่องอดีตผู้ได้รับทุนโครงการ Cartier Women’s Initiative ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างผลงานอย่างเป็นรูปธรรม และผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

พิธีมอบรางวัลครั้งนี้เป็นกิจกรรมสำคัญส่งท้ายสัปดาห์ Cartier Women’s Initiative Impact Awards ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–23 พฤษภาคม ภายในงาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ โดยคาร์เทียร์มีส่วนร่วมออกแบบและจัดสร้าง Women’s Pavilion อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ภายใต้แนวคิด “Forces for Good”

โดยพิธีมอบรางวัลได้สะท้อนความเชื่อมั่นของคาร์เทียร์ที่ว่า “เมื่อผู้หญิงก้าวหน้ามนุษยชาติก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน” นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น โครงการ Cartier Women’s Initiative มุ่งมั่นยกย่องและสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงที่ใช้พลังของธุรกิจขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา โครงการฯ ได้สนับสนุนผู้ประกอบการแล้วกว่า 330 ราย จาก 66 ประเทศทั่วโลก มอบเงินทุนรวมกว่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 500 คน โครงการฯ ให้การสนับสนุนทั้งในด้านเงินทุน และโปรแกรมพัฒนาศักยภาพระยะเวลา 1 ปี ซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรการบริหารระดับผู้บริหารจาก INSEAD การฝึกอบรมธุรกิจที่ออกแบบเฉพาะบุคคล การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ และการส่งเสริมภาพลักษณ์ประชาสัมพันธ์ในระดับสากล

ในปี 2568 โครงการ Cartier Women’s Initiative ได้เชิดชูเกียรติอดีตผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 9 ท่าน ที่ดำเนินการขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ได้รับรางวัล Impact Awards ประจำปีนี้ได้รับการคัดเลือกใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ การพิทักษ์รักษ์โลก (Preserving Planet), การพัฒนาคุณภาพชีวิต (Improving Lives) และการสร้างสรรค์และส่งมอบโอกาส (Creating Opportunities) ซึ่งล้วนสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ และครอบคลุมทั้ง 17 เป้าหมายหลัก ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ได้รับการคัดเลือกผ่านกระบวนการประเมินและตัดสินอย่างเข้มงวด โดยสะท้อนถึงภาวะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และนวัตกรรมที่สามารถขยายผลได้ในระดับโลก

ผู้ได้รับรางวัลสาขาการพิทักษ์รักษ์โลก (Preserving the Planet)

เทรซี โอรูร์ก (Tracy O’Rourke) จากประเทศไอร์แลนด์ ผู้ก่อตั้ง Vivid Edge และเป็นผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2562 นำเสนอบริการบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency as a service) เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างคุ้มค่าผ่านการเข้าถึงเทคโนโลยีสะอาดในราคาที่เหมาะสม นับตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ Cartier Women’s Initiative บริษัท Vivid Edge ได้ช่วยให้องค์กรต่างๆ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 36,457 ตัน และประหยัดพลังงานรวมกว่า 119.6 กิกะวัตต์ชั่วโมง เทียบเท่ากับการจ่ายพลังงานให้บ้านเรือนเกือบ 28,500 หลัง โดยลูกค้าสามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึงร้อยละ 82

เครส เวสลิง (Kresse Wesling) ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Elvis & Kresse จากสหราชอาณาจักร และผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2554 พัฒนาโมเดลธุรกิจที่ผสานหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้ากับการตอบแทนสังคม โดยเปลี่ยนสายส่งดับเพลิงที่หมดอายุการใช้งานและเศษหนังให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หรูคุณภาพสูง นับตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ บริษัทสามารถลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบได้มากกว่า 315 ตัน และบริจาคเงินมากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับองค์กรการกุศลที่สนับสนุนชุมชนนักผจญเพลิง

คริสติน คาเก็ตสึ (Kristin Kagetsu) ผู้ร่วมก่อตั้ง Saathi จากประเทศอินเดีย และผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2561 ผลิตแผ่นอนามัยที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากเส้นใยกล้วย ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนทั้งต่อสุขอนามัยของผู้หญิงและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการพัฒนาศักยภาพให้กับผู้หญิงในพื้นที่ชนบท ปัจจุบัน Saathi เข้าถึงผู้หญิงกว่า 114,000 คน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 161 เมตริกตัน ลดขยะพลาสติกได้ 92 เมตริกตัน และสร้างงานให้กับผู้หญิงกว่า 485 คนในชุมชนที่ขาดแคลนโอกาสทางเศรษฐกิจ

ผู้ได้รับรางวัลสาขาการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Improving Lives)

เคทลิน ดอลการ์ต (Caitlin Dolkart) ผู้ก่อตั้ง Flare จากประเทศเคนยา ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2562 ได้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินแบบครบวงจร ที่ช่วยลดระยะเวลาการเรียกรถพยาบาลลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายพันรายทั่วภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก นับตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ Cartier Women’s Initiative บริษัท Flare ได้ขยายการให้บริการครอบคลุมทั่วภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก โดยสามารถลดระยะเวลาเฉลี่ยในการส่งความช่วยเหลือไปยังสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศเคนยาได้ถึงร้อยละ 97 จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 16 นาทีเท่านั้น

นามิตา บังกา (Namita Banka) ผู้ก่อตั้ง Banka Bioloo จากประเทศอินเดีย ผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2556 ได้นำเสนอระบบสุขาภิบาลแก่ชุมชนด้อยโอกาสผ่านการติดตั้งห้องน้ำชีวภาพและระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ช่วยยกระดับสุขภาพอนามัยและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น นับตั้งแต่ได้รับการสนับสนุน Banka Bioloo ได้ติดตั้งห้องน้ำชีวภาพกว่า 3,000 แห่งให้กับการรถไฟอินเดียซึ่งรองรับผู้โดยสารจำนวนมากถึง 10 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งห้องน้ำชีวภาพกว่า 30,000 หน่วยในพื้นที่ชนบทและเป็นบริษัทสุขาภิบาลแห่งแรกในอินเดียที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน

อีเวตต์ อิชิมเว (Yvette Ishimwe) ผู้บริหารกลุ่ม IRIBA Water Group จากประเทศรวันดา และผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2566 ได้ดำเนินธุรกิจให้บริการน้ำดื่มสะอาดในราคาที่เข้าถึงได้ ผ่านตู้กดน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยยกระดับสุขอนามัยและลดอัตราการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อจากน้ำในพื้นที่รายได้ต่ำ นับตั้งแต่ก่อตั้ง IRIBA สามารถส่งมอบน้ำดื่มที่ปลอดภัยให้กับประชาชนกว่า 517,000 คน และลดอัตราโรคติดเชื้อจากน้ำในโรงเรียนที่ติดตั้งระบบของบริษัทได้ถึงร้อยละ 37

ผู้ได้รับรางวัลสาขาการสร้างสรรค์และส่งมอบโอกาส (Creating Opportunities)

รามา คายาลี (Rama Kayyali) ผู้ก่อตั้ง Little Thinking Minds จากประเทศจอร์แดน ผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2557 มุ่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในภูมิภาคตะวันออกกลางผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาอาหรับในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งช่วยเสริมทักษะการอ่านของเด็ก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ Cartier Women’s Initiative แพลตฟอร์มของเธอสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของนักเรียนได้ถึงร้อยละ 25 และเข้าถึงผู้เรียนมากกว่า 400,000 คนใน 11 ประเทศ รวมถึงในกลุ่มชุมชนผู้ลี้ภัย

มาเรียม โทโรเซียน (Mariam Torosyan) ผู้ก่อตั้ง Safe YOU จากประเทศอาร์เมเนีย ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในปี 2566 ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเพศ โดยนำเสนอทั้งบริการแจ้งเหตุฉุกเฉินและทรัพยากรสนับสนุนจากชุมชนใน 5 ประเทศ นับตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ Cartier Women’s Initiative แพลตฟอร์ม Safe YOU ได้ขยายการให้บริการครอบคลุม 5 ประเทศ มีผู้ใช้งานมากกว่า 40,000 ราย รองรับการแจ้งเหตุฉุกเฉินกว่า 18,000 ครั้ง และเปิดตัวโมดูลใหม่เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการเงินสำหรับผู้ได้รับผลกระทบในรัฐนิวเม็กซิโกประเทศสหรัฐอเมริกา

แจ็กกี้ สเตนสัน (Jackie Stenson) ผู้ร่วมก่อตั้ง Essmart จากประเทศอินเดีย ผู้เข้าร่วมโครงการในปี 2557 ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต อาทิ โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ และเตาหุงต้มสะอาด ให้กับชุมชนชนบทผ่านระบบจัดจำหน่ายปลายทางที่เข้มแข็ง พร้อมส่งเสริมศักยภาพของผู้ค้าปลีกรายย่อยในท้องถิ่น จนถึงปัจจุบัน Essmart สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้คนกว่า 1.4 ล้านคน เพิ่มชั่วโมงการใช้ชีวิตและทำงานได้มากกว่า 125 ล้านชั่วโมง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 101 ล้านกิโลกรัม และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าในชนบทกว่า 5,000 ราย

ผู้นำหญิงที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ทั้งเก้าท่านนี้ ล้วนเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ร่วมกันกำหนดนิยามใหม่ของความเป็นผู้นำ และขยายขอบเขตของผลกระทบเชิงบวกที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัล Impact Awards ทั้ง 9 ท่าน ไม่เพียงได้รับการยกย่องจากความสำเร็จจากการดำเนินการขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกที่ผ่านมา แต่ยังรวมถึงศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยผู้ได้รับรางวัลแต่ละท่านจะได้รับทุนสนับสนุนจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโอกาสในการเพิ่มการรับรู้ผ่านสื่อระดับนานาชาติ และเข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพระยะเวลา 1 ปี ซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมทักษะด้านการวัดผลกระทบพัฒนาภาวะผู้นำ และขยายขอบเขตการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ โครงการดังกล่าวได้เพิ่มเนื้อหาใหม่ในด้านการบริหารเวลาการเรียนรู้ร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่น และการวางแผนกลยุทธ์ซึ่งดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรโครงการรายใหม่

เนื่องในโอกาสที่การจัดงานประจำปี 2568 ได้สิ้นสุดลง ทางคาร์เทียร์ขอประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ Cartier Women’s Initiative ประจำปี 2569 ซึ่งเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2568 และจะปิดรับสมัครในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.cartierwomensinitiative.com) ก่อนจะปิดท้ายด้วยพิธีมอบรางวัลระดับโลกที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศไทย ในปี 2569 การประกวดในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อสังคมหญิงที่มีความโดดเด่นจำนวน 30 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ผ่านการคัดเลือกเป็น 3 อันดับแรกในแต่ละหมวดรางวัลทั้ง 10 หมวดหมู่

รางวัล Cartier Women’s Initiative ประจำปี 2569 จะประกอบด้วยรางวัลระดับภูมิภาคทั้งสิ้น 9 รางวัล รวมถึงรางวัล “Pioneer in Science & Technology” ซึ่งเป็นการยกย่องนวัตกรรมที่เกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างครบถ้วนในทุกมิติ ทั้งด้านการเงิน สังคม และทุนมนุษย์ เพื่อส่งเสริมให้สามารถขยายขอบเขตของผลกระทบเชิงบวกจากธุรกิจที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงสังคม พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพในการเป็นผู้นำของตนเองให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น การจัดงานในปี 2569 นี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของโครงการในการขยายบทบาทและเสียงของผู้หญิง เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง รวมถึงการร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เท่าเทียม และครอบคลุมสำหรับทุกคน


LATEST ARTICLES
TOP Share
Social