ปัญหาฝ้าแดดที่กำลังมาในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่จะรักษาอย่างไรให้ตรงจุด!?

เรียกได้ว่า เป็นคำค้นหา ยอดฮิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ กับการค้นหาวิธีการรักษาฝ้าแดด ก็แหม!!! แดดประเทศไทย แรงซะขนาดนี้ แต่ไม่ต้องกังวลไป ในบทความนี้ รมย์รวินท์ คลินิก (Romrawin Clinic) นำเคล็ดลับ​มาฝากเพื่อนพ้องน้องพี่เป็นเนื้อหาสาระ​แบบ​เข้าใจง่าย​ และทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพื่อให้ทุกคนมีวิธีรับมือกับเจ้าตัวปัญหา​ฝ้าแดดได้แบบรู้ทัน​สามารถป้องกัน​การเกิดฝ้าแดดตัวร้าย และ​บอกต่อเพื่อนๆ ของเรา ให้มีผิวหน้าที่สวยใสแบบไร้กังวลกันอีกต่อไป​

ก่อนที่จะเป็นรู้วิธีการรักษาฝ้าแดด เรามารู้สาเหตุที่ทำให้เกิด​ "การเป็นฝ้าแดด​" กันก่อน ซึ่งขอบอกเลยนะคะว่า มันใกล้ตัวมากๆเลย นั้นคือ "แสงแดด​" ไม่แปลกใจเลยใช่ไหมหล่ะค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นฝ้าแดดนั้นหล่ะค่ะ เจ้าแสงแดดตัวร้าย เป็นสาเหตุ​หลักที่ทำให้เกิด​ ฝ้า​ ได้ เพราะแสงแดดสามารถกระตุ้นการทำงาน​ของ​ "เอนไซม์​ไทโรซิเนส" ให้มีการผลิตเม็ดสีเมลานิ​น​ ซึ้งมีหน้าที่กรองรังสี​ UVA UVB เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น​เมลานินก็จะดูดผลิตออกมามากขึ้นกว่าปกติ จึงเป็นเหตุให้เกิดปัญหา ฝ้าแดด​ นั้นเอง​

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสาเหตุ​และปัจจัย​หลายอย่างที่สามารถ​กระตุ้น​สร้างความรุนแรงของเม็ดสีให้เกิดฝ้าบนใบหน้าของเรา ซึ่งก็มีระดับความลึกและตื้นไม่เท่ากัน สังเกตได้จากสีของฝ้า สีน้ำตาลเข้ม จะเป็นฝ้ากลุ่มที่ยังไม่ฝั่งตัวลึกมาก แต่ถ้าหากเป็นสีเทาแสดงว่า เป็นฝ้าที่ฝักรากลึกใต้ผิวหนังเรียบร้อยแล้วแต่นอกจากแสงแดดแล้ว ก็ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า​สีผิวก็มีส่วนสำหรับคนที่มีสีผิวเข้มจะมีความเสี่ยงเกิดฝ้าได้ง่ายมากกว่าคนผิวขาว​ได้​ไม่เว้นภาวะ​ที่เกี่ยวข้อง​กับฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบ​ให้เกิดฝ้า

อย่างเช่น​ โรคไทรรอยด์, ฮอร์โมน​เอสโตรเจน​ และโพรเจสเทอโรนในร่างกาย ​และการใช้ฮอร์โมนในรูปแบบต่างๆ อย่างการรับประทาน​ยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์​ การรักษา​ด้วยฮอร์โมน​ โดยเฉพาะ​สาว ๆทั้งหลาย​ที่มีอายุระหว่าง​30-40 ปี​ และจะพบในกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย​ ​ฟังแล้วสาวๆ ทุกคนคงอยากรีบหันกลับมาดูแลตัวเองใส่ใจตัวเองมากขึ้นแน่นอน​เนื่องจาก​ปัญหาฝ้าเป็นปัญหาผิวพรรณ​ที่พบเจอได้บ่อยและทำให้หลายคนหมดความมั่นใจได้เมื่อเกิดขึ้นกับตัว เพราะถามว่าปัจจุบัน​นี้ยังไม่มีวิธีการรักษาฝ้าแดด​ให้หายขาดได้​แต่สามารถรักษาให้ฝ้าจางลงได้ ที่นี่เรามาดูวิธีการรักษาฝ้าแดดแบบง่ายๆ ที่ทุกสามารถทำได้อย่างแน่นอน

วิธีการรักษาฝ้าแดด​

  1. บำบัดผิวด้วยการทำทรีตเมนต์ เปรียบเสมือนการทาครีม แต่มีการใช้คลื่นพลังงานเปิดรูขุมขน และผลัดตัวยา/วิตามินต่างๆ ลงสู่ชั้นผิว สามารถทำได้บ่อย สัปดาห์ละครั้ง แถมยังช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้น ดูกระชับ ลดเลือน​จุด​ด่าง​ดำ ผิวหน้าชุมชื้น มีชีวิตชีวาอีกด้วย

2.ใช้การรักษาด้วยการทายา ยารักษาฝ้ามีหลายชนิด​เช่น ​กลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) กรดอะซีลาอิก(Azelaic Acid) กรดโควิก​(Kojic Acid) คอร์ติโคสเตียรอยด์​(Corticosteroids) กรดไกลโคลิก(Glycolic Acid) ซึ้งความเข้มข้นของสารในครีมทา มีปริมาณ​แตกต่างกัน​ จึงไม่ควรซื้อใช้เอง​เพราะอาจทำให้ผิวหน้าแสบแดงหรือเป็นขุยได้​ ควรพบแพทย์​ก่อนใช้ยา

3.ใช้การรักษาฝ้าแดด​ด้วยเลเซอร์ การใช้เลเซอร์​รักษา​เป็นวิธี​ที่ค่อนข้างรวดเร็ว​ด่วนทันใจของหลายๆ คนมักพบในปัจจุบัน​ที่ใช้เลเซอร์​อาทิเช่น​ เลเซอร์​ระบบคิวสวิตช์​ G-Switched Laser หรือ​YAG Laser , Dual Yellow, Picoway การทำงานของเลเซอร์ จะส่งตรงพลังงานลงไปในชั้นเม็ดสี ที่เกิดฝ้าโดยตรง แสงของเลเซอร์ จะช่วยทำลายกลุ่มก้อนของเม็ดสีที่รวมตัวกันอย่างผิดปกตินี้ ให้แตกกระตายตัวออกจากกัน และเมื่อเม็ดสีบางส่วนถูกทำลาย ก็จะปล่อยให้ขบวนการของร่างกายมาเก็บกินขิองเสียและขับออกไป​แต่ยังไงก็ควรพบแพทย์​ก่อนตัดสินใจ​รักษา​เพื่อ​การรักษาที่ตรงจุดกับปัญหา​ของเรา

วิธีป้องกันการเกิดฝ้า​แดด​

เราได้รู้สาเหตุที่มา/วิธีการรักษา ของฝ้าแดดกันไปแล้ว แต่ใครๆ ก็คงไม่อยากให้เกิดปัญหาฝ้าแดดนี้ เราตัวหรือใครที่มีปัญหานี้อยู่แล้วก็คงไม่อยากที่จะให้เกิดซ้ำ เกิดเพิ่มจริงไหมล่ะ วิธีป้องการการเกิดฝ้าแดดที่ดีที่สุด ก็คือ การหลีก​เลี่ยง​การเผชิญ​กับแสงแดดโดยตรงเป็นหนึ่งวิธีในการป้องกันฝ้าที่สามารถ​ทำได้ในชีวิต​ประจำวันมากที่สุด​และเคล็ดลับ​ง่ายๆ​ตามนี้เลยสาวๆ​..

1.หลีกเลี่ยง​แสงแดด​ เมื่อไม่จำเป็น​ โดยเฉพาะ​แดดช่วง​ 10.00-16.00 น.​หรือถ้าจำเป็นต้องเจอก็อาจจะสวมหมวกสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนังได้อย่างมิดชิดหรือ​ใช้ผ้าคลุม​แม้แต่การ กางร่ม​ เป็นต้น

2.ครีมกันแดด​ทีมี​SPF 30​ + ขึ้นไป ​เพื่อป้องกันรังสี UVA UVB ​และมีค่าป้องกันPA++ ขึ้นไป​โดยควรทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกแดด30​นาที​ ส่วนที่ให้เลือกค่าตัวเอสพีเอฟ30​+ ขึ้นจะบ่งบอกว่าครีมมีประสิทธิภาพ​ในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีหรือมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่​กับค่าเอสพีเอฟด้วยเพื่อเป็นการป้องกันผิวจากแสงแดดไปในตัว

3.ใช้ครีมทาที่มีส่วนผสมของ​กรดผลไม้หรือครีมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ก็ได้เพื่อป้องกันผิวหน้าไม่ให้มีสีเข้มขึ้น

4.เรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถ​ดูแลตัวเองได้​ยิ่งสำคัญ​เลยเพียงแค่ทุกคนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง​ ต่อวัน​หลีกเลี่ยง​ความเครียดทานอาหาร​ที่มีสารต้านอนุมูล​อิสระ​และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8​ แก้ว

การดูแลผิวบนใบหน้าของแต่ละคนก็คงจะแตกต่างกันออกไป ตามรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน ฮอร์โมน อายุ กรรมพันธุ์ บางคนเป็นฝ้าลึก เลือกวิธีการรักษาฝ้าแดดด้วย เลเซอร์ บางคนเป็นฝ้าตื้นๆ เลือกวิธีการรักษาฝ้าแดด แบบการทายา แต่สิ่งหนึ่งที่อยากย้ำ คือเรื่องการปฏิบัติตัว ที่เลี่ยงการเกิดฝ้าแดดอย่างเคร่งครัดเพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับคุณในอนาคต แต่สำหรับใครที่ กำลังมองหา​คลีนิคเพื่อ​การรักษาฝ้าแดด​ แอดมินขอแนะนํา​ รมย์รวิน​ท์ คลินิก ได้เลย มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ​พร้อมปรึกษา​คุณหมอผู้เฉพาะทางทางด้านการรักษาฝ้าแดด​โดยตรง​


LATEST ARTICLES
TOP Share
Social